สภาองค์กรของผู้บริโภค จับมือ สคบ. ตั้ง 4 คณะทำงาน ยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) โดย คุณสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภคพร้อมคณะ ได้เข้าพบคุณธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมคณะผู้บริหาร เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกันภายใต้การทำงานคุ้มครองผู้บริโภค ณ ห้องประชุม 5 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
.
สารี กล่าวว่า สอบ. มีประเด็นที่ต้องการผลักดันและหารือร่วมกับ สคบ. เพื่อเป็นการยกระดับงานคุ้มครองผู้บริโภคและเพื่อให้งานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประเด็นที่ต้องการผลักดันและหารือร่วมกันมีทั้งหมด 4 ประเด็น ได้แก่ 1) (ร่าง) พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. …. 2) การดำเนินงานด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค รวมถึงการประสานงานด้านการฟ้องคดี กรณีที่นอนท็อปเปอร์ ยางพารา 3) การดำเนินการจัดทำศูนย์เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสินค้าไม่ปลอดภัย และ 4) การคุ้มครองผู้บริโภคในสังคมสูงวัย ตามรายละเอียดดังนี้
.
1) (ร่าง) พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. …. โดยจะร่วมกันปรับปรุงให้กฎหมายดังกล่าว ลดความซ้ำซ้อนที่จะเกิดขึ้นกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยังคงอยู่บนพื้นฐานหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
2) การดำเนินงานด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค และการประสานงานด้านการฟ้องคดีที่นอนท็อปเปอร์ ยางพารา จากเพจเฟสบุ๊ก เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค และในส่วนของปัญหาผู้ประกอบการยึดเงินดาวน์ห้องชุดในกรณีที่ธนาคารปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ผู้บริโภค ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องมีการหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมที่ดิน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
.
3) การดำเนินการจัดทำศูนย์เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสินค้าไม่ปลอดภัย โดยจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และเป็นฐานข้อมูลให้กับหน่วยงานประจำจังหวัด รวมถึงสคบ.ในท้องที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเฝ้าระวังและเตือนภัยได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการตั้งคณะทำงานด้านระบบเตือนภัยที่รวดเร็วและการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคณะกรรมการอาเซียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (ASEAN Committee on Consumer Protection : ACCP)
.
และ 4) การคุ้มครองผู้บริโภคในสังคมสูงวัย เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งสินค้าและบริหารหลายอย่างได้ปรับกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุมากขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพ การเงิน ที่อยู่อาศัย ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สอบ. และสคบ. ต่างเห็นพ้องที่จะดำเนินการในประเด็นเร่งด่วน อาทิ ฉลากผลิตภัณฑ์ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ การให้บริการเฮลต์แคร์จะมีการประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
.
ด้านนายธสรณ์อัฑฒ์ ระบุว่า สคบ. ยังคงมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น (ร่าง) พระราชบัญญัติประกันสุขภาพ พ.ศ. …. (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. …. เป็นต้น โดย สคบ. พร้อมทำงานคู่ขนานกันไปกับ สอบ. ประสานการทำงานระหว่างกัน รวมถึงตั้งคณะทำงานให้เกิดการขับเคลื่อนร่วมกันเป็นอย่างรูปธรรม ด้วยเป้าประสงค์หลักของทั้งสององค์กรนั้นเป็นการทำงานเพื่อประชาชน
.
.
.
ที่มา: สภาองค์กรของผู้บริโภค
ปรึกษาปัญหาผู้บริโภค