ผู้บริโภคล่ารายชื่อ ร้อง รพ.เอกชน คืนเงินจอง ‘โมเดอร์นา’ ด้านสภาองค์กรของผู้บริโภค ชี้ ผู้บริโภคมีสิทธิบอกเลิกสัญญา – ขอเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหากไม่ได้ฉีดตามกำหนดในสัญญา

– – – – –

จากการที่โรงพยาบาลเอกชนเปิดให้ประชาชนจองวัคซีนทางเลือกโควิด – 19 ยี่ห้อโมเดอร์นา (Moderna) จำนวน 4 ล้านโดส จะเริ่มทยอยส่งมอบและเริ่มฉีดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 (ตุลาคม – ธันวาคม) แต่ขณะนี้วัคซีนทางเลือกดังกล่าวถูกเลื่อนการส่งมอบออกไปอีกนั้น

.

วันนี้ (7 ตุลาคม 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แคมเปญ ‘เรียกร้องให้โรงพยาบาลเอกชนคืนเงินแก่ลูกค้าผู้จองวัคซีนโมเดอร์นาที่ไม่ต้องการรอฉีดอีกต่อไป’ บนเว็บไซต์ Change.org จากผู้ใช้ชื่อ กฤษณะ น้ำดอกไม้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบและแอดมินเฟซบุ๊กเพจ ‘ชาติไหนจะได้ฉีดโมเดอร์นา’ และ เฟซบุ๊กเพจ ‘กลุ่มสนทนาลูกค้าโรงพยาบาลเครือ BCH’ ที่ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างแคมเปญว่า เนื่องจากการบริหารจัดการวัคซีนฟรีที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล จึงทำให้ประชาชนจำนวนมากตัดสินใจจองวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ในราคาเข็มละ 1,650 บาท กับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งแจ้งว่าจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนในช่วงเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป .

.

อย่างไรก็ตาม จากข่าวที่ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ นั้นมีข้อมูลออกมาชัดเจนว่าวัคซีนทางเลือกดังกล่าวถูกเลื่อนส่งมอบออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน อีกทั้งตัวเลขจำนวนวัคซีนยังเหลืออยู่เพียง 1.9 ล้านโดส จากจำนวนกว่า 4 ล้านโดส ด้วยข้อมูลที่ออกมานี้จึงทำให้ประชาชนจำนวนมากเป็นกังวลและได้ผลกระทบจากการถูกเลื่อนฉีดวัคซีนออกไป

.

ดังนั้น แคมเปญดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่เรียกเก็บเงินประชาชนไปแล้วกว่า 3 เดือน จะต้องเปิดช่องทางเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้และไม่ต้องการรอวัคซีนสามารถแจ้งขอรับเงินคืนโดยไม่มีเงื่อนไขภายใน 15 วัน ผ่านบัญชีธนาคารที่ระบุไว้ในระบบ ส่วนผู้ที่ต้องการรอวัคซีนนั้น โรงพยาบาลก็จะต้องแจ้งกำหนดการเข้ารับวัคซีนอย่างชัดเจนด้วย

.

ผู้บริโภคสามารถเข้าไปลงชื่อสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว ได้ที่ https://chng.it/LNYBZBGGr2

.

ด้าน โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า กรณีการสั่งจองวัคซีนและไม่ได้รับวัคซีนตามกำหนดเวลาที่ตกลงไว้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ทั้งที่ตามสิทธิผู้บริโภคนั้นผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ซึ่งการสั่งจองวัคซีนก็เป็นการทำสัญญาลักษณะหนึ่ง ดังนั้น เมื่อไม่มีการส่งมอบตามกำหนดเวลาจึงเป็นสิทธิที่ผู้บริโภคสามารถบอกเลิกสัญญาและขอเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยจากการผิดนัดได้

.

หากผู้บริโภคคนใดพบปัญหาไม่สามารถบอกเลิกสัญญาและขอเงินคืนได้ สามารถร้องเรียนมาที่ ศูนย์บริการผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) สอบ.

อีเมล : tcc.complaint@thaiconsumerscouncil.org

โทรศัพท์ : 081 134 9216

Inbox Facebook : สภาองค์กรของผู้บริโภค

.

ขณะที่ จิณนะ แย้มอ่วม ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า โดยปกติการสั่งจองสินค้าที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนก็จะต้องมีกำหนดระยะเวลาในการรับสินค้า ถ้าหากส่งสินค้าไม่ได้ตามที่กำหนดก็จะต้องคืนเงินให้กับผู้บริโภค เพราะถือว่าเป็นการผิดสัญญา ในกรณีการจองวัคซีนทางเลือกเช่นกัน ในช่วงเปิดจองมีการระบุว่าจะเริ่มฉีดได้ภายในเดือนตุลาคมแต่สุดท้ายมีการเลื่อนออกไปอีก ดังนั้น จึงเท่ากับผิดสัญญาและผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้เงินจากการจองวัคซีนกลับคืน

.

นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางรายอาจมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิต เช่น ต้องกลับไปทำงานที่บริษัท หรือต้องเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด – 19 ได้ ด้วยเหตุผลข้างต้นประกอบกับการถูกเลื่อนวัคซีนที่จองไว้ จึงทำให้ผู้บริโภคหลายรายเลือกที่จะไม่รอวัคซีนทางเลือกนี้และมองว่าโรงพยาบาลที่เอกชนควรจะคืนเงินที่จองวัคซีนให้ผู้บริโภค

.

“ตอนนี้คนอาจรู้สึกว่าถ้าได้ฉีดก่อนอย่างน้อยก็สามารถกันตายได้ แต่ความเสี่ยงที่จะติดยังมีอยู่ ทำให้ผู้บริโภคมองว่าเมื่อจ่ายเงินไปแล้วและบอกว่าจะมาเดือนนี้แต่พอถึงวันก็เลื่อนไปอีก อีกทั้งก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปถึงเมื่อไร ดังนั้น เมื่อผู้บริโภคไม่อยากรอวัคซีนทางเลือกนี้แล้ว ก็ควรคืนเงินให้ผู้บริโภคเต็มจำนวนและควรคิดดอกเบี้ยตามวันที่ผิดนัดให้ผู้บริโภคด้วย” จิณนะ กล่าว