รถบัสโดยสารชั้นเดียว : ควิกบิ๊กวิน คมนาคมเพื่อชีวิตที่ปลอดภัยของทุกคน

“…หากสังคมไทยร่วมกันสนับสนุนมาตรการยกเลิกรถโดยสารสองชั้น และเปลี่ยนมาใช้รถชั้นเดียวที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง จะเป็นก้าวสำคัญของประเทศในการลดอัตราการตายบนท้องถนนอย่างยั่งยืน ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อนความคุ้นชินของผลประโยชน์ในระบบเดิม…”


ประเทศไทย มีเป้าหมายที่ท้าทาย คือ ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ 12 ต่อแสนประชากรในปี 2569 เหลือ 8 ต่อแสนในปี 2574 และเหลือเพียง 5 ต่อแสนในปี 2579 เป้าหมายเหล่านี้จะสำเร็จได้ ต้องอาศัยทั้งมาตรการเข้มแข็ง การทำงานเชิงระบบ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

อ้างอิง ความสูญเสียที่เตือนใจ กับภารกิจที่ต้องสานต่อ : บทเรียนจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย สำนักข่าวอิศรา วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน 2568 https://isranews.org/article/isranews-article/141107-roadaccidents.html

ในระดับสากล ที่ประเทศฟินแลนด์ วันนี้ เฮลซิงกิ ได้เป็น โมเดลแห่งถนนปลอดภัยของยุโรป กล่าวคือ เมืองถนนปลอดภัย ไร้เสียชีวิต (Zero Traffic Deaths) ถือเป็นความสำเร็จจากความมุ่งมั่น

อ้างอิง เฮลซิงกิ : ถนนปลอดภัย ไร้เสียชีวิต สำนักข่าวอิศรา วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม 2568 https://www.isranews.org/article/isranews-article/140330-Helsinki.html

อุบัติเหตุบนท้องถนนไทยเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดซ้ำอย่างไม่มีวันจบสิ้น หนึ่งในสาเหตุที่สร้างความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า คือ “รถโดยสารสองชั้น” ที่แม้จะให้มุมมองการเดินทางสูงและจุคนได้มาก แต่กลับแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่ารถชั้นเดียวหลายเท่า โดยมีความเสี่ยงถึงชีวิต

โศกนาฏกรรมที่ซ้ำรอย

ตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมา มีข่าวอุบัติเหตุรถบัสสองชั้นที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกมากมาย บทความ ย้อนรอย 18 ปี อุบัติเหตุบัส 2 ชั้น ดับหลายร้อย ล่าสุดสังเวยอีก 18 ความสูญเสียที่ไม่เคยเรียนรู้ โดย หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ได้รายงาน ข้อมูล ที่มาจาก สภาองค์กรผู้บริโภค, มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย, กรมขนส่งทางบก, และ สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) เกี่ยวกับการสียชีวิตและบาดเจ็บขากรถบัสสองชั้น ไว้ตามลำดับดังนี้

– 19 มกราคม 2550 รถบัส 2 ชั้น นำคณะครู จ.จันทบุรี ชมงานพืชสวนโลก พลิกคว่ำบนทางโค้งลงเนินลาดชัน เสียชีวิต 21 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน

– 10 ตุลาคม 2551 รถบัส 2 ชั้น คณะนักศึกษา จ.ขอนแก่น แหกโค้งลงเขา เสียชีวิต 21 คน บาดเจ็บ 27 คน

– 28 กุมภาพันธ์ 2557 รถบัส 2 ชั้น คณะนักเรียน จ.นครราชสีมา ชนรถพ่วง 18 ล้อ เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บ 45 คน

– 9 มีนาคม 2560 บัสทัศนศึกษา 2 ชั้น ตกเหวหน้าศาลเจ้าพ่อโทน จ.ปราจีน ครู-นักเรียน เสียชีวิต 6 ศพ บาดเจ็บครึ่งร้อย

– 21 มีนาคม 2561 บัส 2 ชั้น คณะทัวร์ จ.กาฬสินธุ์ เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนพลิกคว่ำ เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บ 32 คน

– 3 มิถุนายน 2566 บัส 2 ชั้นพาคณะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านดูงาน เสียชีวิต 2 ราย เจ็บอีก 30 กว่าคน

– 26 กุมภาพันธ์ 2568 กรณีโศกนาฏกรรมรถบัสคณะดูงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ขณะเดินทางไปยัง จ.ระยอง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต18 รายและบาดเจ็บอีก 40 กว่าราย

bus 131125 pic1 wty

ภาพจาก มติชน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เปิดสาเหตุ รถทัวร์เชียงใหม่ พลิกคว่ำช่วงดอยขุนตาล รถกู้ภัยขนคนเจ็บชนซ้ำ จนท.ต้องปิดถนน

และล่าสุด เดือนพฤศจิกายน 2568 รถทัวร์สองชั้นสายเชียงใหม่–กรุงเทพฯ พลิกคว่ำบนทางลงเขาดอยขุนตาล จ.ลำปาง บาดเจ็บ 38 คน

ทุกเหตุการณ์ล้วนสะเทือนใจ และแทบทั้งหมดมีจุดร่วมคือ “รถสองชั้น”

สถิติของกรมการขนส่งทางบกชี้ว่า รถโดยสารสองชั้นราว 7,300 คัน เกิดอุบัติเหตุถึง 107 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 24 ราย ขณะที่รถชั้นเดียวกว่า 94,000 คัน เกิดอุบัติเหตุ 191 ครั้ง แต่เสียชีวิตเพียง 30 ราย — ตัวเลขบอกชัดว่าความเสี่ยงของรถสองชั้น “สูงกว่าหลายเท่า” แม้จำนวนจะน้อยกว่า

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยระบุว่า รถสองชั้นมีความเสี่ยงพลิกคว่ำมากกว่ารถชั้นเดียวถึง 7 เท่า และหากเกิดอุบัติเหตุ โอกาสเสียชีวิตจะสูงกว่า 10 เท่า

หาใช่โชคชะตา แต่อยู่ที่ “โครงสร้าง”

รถโดยสารสองชั้นมีจุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) สูง เมื่อบรรทุกผู้โดยสารเต็มชั้นบน น้ำหนักจะกดสูงขึ้น ยิ่งเมื่อเข้าโค้งหรือทางลาดชัน โอกาสพลิกคว่ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ประเทศไทยยังมีเส้นทางที่มีภูเขาและทางโค้งยาวจำนวนมาก เช่น ภาคเหนือและอีสาน ทำให้รถลักษณะนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับภูมิประเทศของเรา

ยิ่งไปกว่านั้น รถโดยสารสองชั้นบางคันในไทยไม่ได้ถูกออกแบบหรือผลิตตามมาตรฐานวิศวกรรมที่ควรจะเป็น หลายคันดัดแปลงต่อเติมจนโครงสร้างเสียสมดุล บางคันไม่มีเข็มขัดนิรภัยให้ผู้โดยสารชั้นบน หากเกิดเหตุเพียงครั้งเดียว ความสูญเสียมักจะรุนแรง

เสียงเรียกร้อง : ถึงเวลาต้องยุติรถสองชั้น

สภาองค์กรของผู้บริโภค เรียกร้องให้ยกเลิกรถโดยสารสองชั้นโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงพลิกคว่ำสูงกว่า 6 เท่า และไม่เหมาะกับสภาพถนนไทย

กรมการขนส่งทางบกเองได้ออกมาตรการตั้งแต่ปี 2559 ให้หยุดจดทะเบียนรถโดยสารสองชั้นใหม่ แต่รถที่มีอยู่เดิมกว่า 2,000 คันยังคงวิ่งอยู่ในระบบ และเป็นช่องโหว่ที่ยังไม่ถูกปิดอย่างแท้จริง

นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนเสนอว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ควรมีการ “ปรับตัวถังให้เหลือชั้นเดียว” พร้อมตรวจสอบจุดศูนย์ถ่วงและเสถียรภาพของรถทุกคันอย่างเข้มงวด

รัฐมนตรีคมนาคม: ก้าวสำคัญสู่ความปลอดภัย

ล่าสุด นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศชัดว่า

“ถึงเวลายกเลิกรถโดยสารสองชั้นทั่วประเทศกว่า 7,000 คัน เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะปลอดภัยขึ้น”

กระทรวงคมนาคมเตรียมกำหนดแผน ปรับโครงสร้างรถสองชั้นให้เหลือชั้นเดียว ภายในปี 2569 พร้อมเพิ่มจุดตรวจสภาพรถ (Checking Point) และทดสอบความมั่นคงของตัวถัง (Tilt Test) เพื่อให้ทุกคันผ่านมาตรฐานเดียวกัน

นับเป็นสัญญาณที่ดี — เมื่อ “นโยบาย” เริ่มขยับเพื่อตอบสนอง “เสียงจากสังคม” ที่ต้องการความปลอดภัย ไม่ต้องการความเสี่ยงอันตรายต่อร่างกายและชีวิต

สังคมไทยจึงควรพร้อมใจกันร่วมสนับสนุน ในการเปลี่ยนผ่านอาจมีต้นทุน ทั้งต่อผู้ประกอบการและระบบขนส่ง แต่ไม่มีต้นทุนใดสูงเท่ากับ “ชีวิตคน” ที่สูญเสียไปกับอุบัติเหตุที่ป้องกันได้

หากสังคมไทยร่วมกันสนับสนุนมาตรการยกเลิกรถโดยสารสองชั้น และเปลี่ยนมาใช้รถชั้นเดียวที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง จะเป็นก้าวสำคัญของประเทศในการลดอัตราการตายบนท้องถนนอย่างยั่งยืน ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อนความคุ้นชินของผลประโยชน์ในระบบเดิม

โดยที่ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งหวังให้ “ทุกคนบนแผ่นดินไทย มีวิถีชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนต่อการมีสุขภาวะที่ดี” สสส และ ภาคีที่ทำงานด้านความปลอดภัยทางถนนจึงควรรวมพลังสังคมขับเคลื่อนสนับสนุนให้ข้อเสนอ “รถบัสโดยสารชั้นเดียว เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยของทุกคน” เป็นจริง โดยมีผลสำเร็จบรรลุพันธกิจ 2570 ของประเทศไทยที่มุ่งลดการเสียชีวิตลงครึ่งหนึ่ง เป็น 12 ต่อแสนต่อปี ในปี 2569 และ มุ่งสู่วิสัยทัศน์ ถนนปลอดภัยไร้เสียชีวิต ของประเทศไทยต่อไป.

เราคงไม่อยากเห็นภาพซ้ำของรถบัสพลิกคว่ำบนทางลงเขา หรือเสียงร้องไห้จากญาติผู้สูญเสียอีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะพูดเป็นเสียงเดียวว่า“ให้มีเพียงรถบัสโดยสารชั้นเดียว เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยของทุกคน”

ปรึกษาปัญหาผู้บริโภค