ศาลยกฟ้องผู้บริโภค หลังอีซี่โฮมฟ้องผู้บริโภคผิดสัญญา ชี้บริษัทฯ ไม่ได้ประกอบธุรกิจตามมาตรฐาน ด้านสภาองค์กรของผู้บริโภคเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเช่าซื้อบ้านไม่ปิดจำนอง
จากกรณีที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเคยออกมาเตือนภัยผู้บริโภคไม่ให้หลงเช่าซื้อบ้านที่ยังไม่ปิดจำนอง รวมถึงให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวนั้น (อ้างอิงข่าว : https://www.tcc.or.th/rental-house/)
วันนี้ (14 พฤศจิกายน) วิภาพร แซ่ผู่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคที่ถูกบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ฟ้องร้องเป็นคดีความฐานผิดสัญญาในฐานะผู้เช่าซื้อ เป็นคดีผู้บริโภค เลขที่ ผบ.E108/2565 ที่ศาลจังหวัดทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
และในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกฟ้องในคดีดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘บริษัทซึ่งมีฐานะเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12 ที่ระบุว่า ผู้ประกอบธุรกิจต้องกระทำด้วยความสุจริตโดยคำนึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสม ขณะที่โจทก์ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ มิได้กระทำการตามมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสมเช่นเดียวกับที่ผู้ประกอบธุรกิจทั่ว ๆ ไปพึงกระทำ ด้วยการปล่อยให้ทรัพย์สินที่ตนเองนำออกให้เช่าซื้อถูกยึดขายทอดตลาดไปยังบุคคลภายนอก แต่กลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายต่าง ๆ จากจำเลยซึ่งเป็นผู้บริโภค พฤติการณ์ของโจทก์จึงเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริตและมิได้ประกอบธุรกิจด้วยระบบที่เป็นธรรม โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย…’ และด้วยคำพิพากษาของศาลครั้งนี้ทำให้ผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
วิภาพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการนำบ้านติดภาระจำนองที่ประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดในราคาถูก และทำสัญญาเช่าซื้อ ซื้อขาย หรือทำสัญญาเช่ากับผู้บริโภครายอื่น ๆ โดยที่บริษัทฯ ยังไม่ได้ชำระหนี้จำนองให้เสร็จสิ้นเสียก่อนนำบ้านมาทำสัญญากับผู้บริโภค จนทำให้ผู้บริโภคที่เข้าทำสัญญาใหม่ถูกหมายแจ้งยึดทรัพย์จากสถาบันการเงิน
โดยขณะนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคได้เสนอแนะไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้ออกประกาศควบคุมสัญญาเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์และให้ตรวจสอบบริษัท อีซี่โฮม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่นที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจแบบเดียวกัน ในกรณีที่มีการใช้ข้อสัญญาไม่เป็นธรรมในการเอาเปรียบผู้บริโภค
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคขอแจ้งเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังพฤติกรรมการเชิญชวนให้ซื้อทรัพย์ที่ได้มาจากการขายทอดตลาดที่ติดจำนอง และก่อนทำสัญญาใด ๆ ควรตรวจสอบก่อนว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ คู่สัญญา หรือได้มีการปิดยอดหนี้จำนองเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และหากผู้บริโภคคนใดพบปัญหาถูกหลอกให้เช่าซื้อบ้าน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา สามารถร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ หรือร้องเรียนมายังสภาองค์กรของผู้บริโภค ตามช่องทางดังต่อไปนี้