เลขาธิการ สปสช. เผย “สมศักดิ์” ห่วงใยประชาชน กำชับ สปสช. เตรียมความพร้อม “30 บาทรักษาทุกที่” ดูแลประชาชนช่วง “เทศกาลสงกรานต์” พร้อมแนะช่องทางใช้สิทธิตั้งแต่เจ็บป่วยเล็กน้อยถึงเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่วิกฤติ ย้ำกรณี “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต” ประชาชนทุกคน ใช้สิทธิ UCEP เข้า รพ. ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ ครอบคลุมรักษา 72 ชม. แรก ไม่เสียค่าใช้จ่าย
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีความห่วงใยประชาชนในช่วงเทศกาล “วันสงกรานต์” โดยในปี 2568 มีวันหยุดยาว คือ ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 2568 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางออกไปต่างจังหวัด เพื่อกลับบ้าน หรือเยี่ยมเยียนครอบครัว จึงได้สั่งกำชับหน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมถึง สปสช. เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ในกรณีหากเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุในช่วงระหว่างนี้ เพื่อให้ใช้สิทธิสุขภาพในการเข้ารับการรักษาพยาบาลได้
ทั้งนี้ ในการเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทนั้น สปสช. ขอแนะนำการเข้ารับบริการ ดังนี้ กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือเจ็บป่วยทั่วไป ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเข้ารักษา เช่น มีอาการความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก ท้องเสียรุนแรง ไข้หวัด ปวดท้อง เคืองตา ทำแผลต่อเนื่อง ตัดไหม ฯลฯ รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องกินยาต่อเนื่องแต่ยาหมดระหว่างเดินทางไปต่างพื้นที่ สามารถใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่เข้ารักษาได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งที่อยู่ใกล้ได้ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินิ (สอน.), ศูนย์สุขภาพชุมชน, โรงพยาบาลประจำอำเภอ – จังหวัด นอกจากนี้ ยังมีร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น โดยขอให้ดูสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ติดหน้าร้าน หรือดูรายชื่อร้านยา-คลินิกที่เข้าร่วมได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://wdrugapi.nhso.go.th/public/
ส่วน กรณีเจ็บป่วยเบื้องต้น 42 กลุ่มอาการ หากไม่สะดวกเดินทางไปรับบริการที่หน่วยบริการ สามารถรับบริการผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพ ที่ร่วมให้บริการผู้มีสิทธิบัตรทองกับ สปสช. ได้ โดยวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใดสามารถรับบริการนี้ได้แล้ว พร้อมรอรับยาจัดส่งถึงที่ โดยเลือกรับผ่านแอปฯ ใดแอปหนึ่ง ดังนี้
– แอปฯ Clicknic (คลิกนิก) แอดไลน์ ไอดี @clicknic
– แอปฯ Mordee (หมอดี) แอดไลน์ ไอดี @mordeeapp
– แอปฯ Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) แอดไลน์ ไอดี @smdthailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nhso.go.th/th/communicate-th/thnewsforperson/42-30
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ส่วนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หากเป็น “การเจ็บป่วยฉุกเฉินแต่ไม่วิกฤติถึงแก่ชีวิต” เช่น อุบัติเหตุทั่วไป เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถใช้สิทธิบัตรทอง เข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐที่ใกล้ที่สุด หรือโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.
แต่หากอยู่ในขั้น “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต” สามารถใช้ “สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” โดยเข้ารักษาได้ในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการรักษาจนพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย เมื่อพ้น 72 ชั่วโมง (3 วัน) จะส่งรักษาต่อที่หน่วยบริการประจำ นอกจากนี้กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทร. สายด่วน 1669 ได้ทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิตที่สามารถสิทธิ UCEP ได้แก่
1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรงหายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น 4.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกพูดไม่ชัดแบบปัจจุบันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด และ 6.อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
“ทั้งหมดนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล เพื่อรองรับการดูแลประชาชนในช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ดี เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นวันดี วันขึ้นปีใหม่ไทย ที่คนไทยจะได้ใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้าน พบปะครอบครัวและญาติพี่น้อง หรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัด สปสช. ขอให้ทุกๆ ท่านมีความระมัดระวังและปลอดภัยตลอดการเดินทางนี้” เลขาธิการ สปสช. กล่าวย้ำในตอนท้าย
