อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพพยายามแสวงหาวิธีการต่างๆ มาหลอกลวงประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง SMS Email Facebook Line และเว็บไซต์ปลอม สมาคมฯ จึงได้รวบรวมแนวทางการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่จะช่วยให้ทำธุรกรรมอย่างปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินได้อย่างมั่นใจ ดังนี้
1.ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์กับร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ
2.พยายามหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมการเงิน หรือไม่ผูกข้อมูลบัตรเครดิตกับร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มที่ไม่มีระบบการยืนยันตัวตนด้วย OTP หรือที่ไม่ใช้เทคโนโลยี 3D Secure
3.ไม่ส่งต่อ OTP ให้บุคคลอื่น ไม่ว่ากรณีใดๆ
4.ตั้งรหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดาในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์
5.ไม่ใช้รหัสผ่านร่วมกันในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และร้านค้าออนไลน์
6.ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว รวมถึงข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชี หมายเลขบัตรเดบิต บัตรเครดิต เลขท้ายหลังบัตรเครดิต (CVV) แก่บุคคลอื่น (ธนาคารไม่มีนโยบายสอบถามข้อมูลลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ SMS และโซเชียลมีเดีย)
7.ปรับวงเงินสำหรับการชำระสินค้าให้เหมาะสมกับการทำธุรกรรมการเงินในโลกออนไลน์ หรือปรับวงเงินชำระสินค้าเป็นศูนย์ชั่วคราว หากยังไม่มีความต้องการจะใช้ชำระค่าสินค้า
8.สังเกตการแจ้งเตือนบัญชี เงินเข้า-เงินออก จากธนาคาร และหมั่นตรวจสอบยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอย่างสม่ำเสมอ
9.หากพบรายการบัญชีผิดปกติ ควรติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรโดยตรงทันที หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามผ่านช่องทางบริการต่างๆ ของธนาคาร หรือ ธปท.
10.ติดตามข่าวสารจาก TB-CERT และช่องทางที่เป็นทางการของทางธนาคาร
สมาคมธนาคารไทย ขอให้ความมั่นใจว่าการให้บริการแก่ลูกค้าธนาคารพาณิชย์ของไทย มีความมั่นคงปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล โดยขอให้ลูกค้าดำเนินการตาม 10 ข้อแนะนำอย่างสม่ำเสมอ หากพบรายการผิดปกติให้ติดต่อธนาคารทันที โดยธนาคารพร้อมให้บริการที่ดีและมีความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม จากการตวจสอบที่ผ่านมาพบว่า มีบางรายโพสต์ข้อความ “ที่เป็นเท็จ” ในสื่อโซเชียล ขอให้หยุดการกระทำนั้น เพราะไม่เป็นผลดีกับการดูแลความเสียหายให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน