นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งเมื่อวันจันทร์(10พ.ค.)ก่อนถึงวันฮารีรายอ อีดิ้ลฟิตรี หลังพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้และอินเดีย
คำสั่งควบคุมการเดินทาง (เอ็มซีโอ) ครั้งล่าสุดนี้ ครอบคลุมการห้ามการรวมตัวเชิงสังคมทุกรูปแบบ รวมถึงงานแต่งงานและงานเลี้ยง สถาบันการศึกษาทุกระดับต้องปิด ยกเว้นสถานรับเลี้ยงเด็กที่ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ ร้านอาหารไม่ได้รับอนุญาตให้รับประทานที่ร้าน รถยนต์ 1 คันมีคนนั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ ส่วนลูกจ้างถูกบังคับให้ปฏิบัติตามนโยบายทำงานจากบ้าน และสำนักงานจะมีคนทำงานภายในในเวลาเดียวกันได้ไม่เกิน 30%
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามเดินทางข้ามอำเภอและข้ามรัฐ รวมถึงห้ามกิจกรรมเชิงสังคมและกีฬา เริ่มมีผลทันทีตั้งแต่วันจันทร์ จนถึงวันที่ 6 มิ.ย. ส่วนคำสั่งห้ามอื่นๆ เริ่มมีผลตั้งแต่วันพุธที่ 12 พ.ค.หรือหนึ่งวันก่อนถึงวันตรุษฮารีรายอ ไปจนถึงวันที่ 7 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม นายมูห์ยิดดิน กล่าวว่า ภาคเศรษฐกิจทุกภาคได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
มาเลเซียเผชิญหน้ากับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 แต่ครั้งนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้และอินเดีย ที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณวันละ 4,000 ราย และก่อความวิตกกังวลว่าเตียงผู้ป่วยและเครื่องช่วยหายใจจะไม่เพียงพอ