จากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ได้ดำเนินการสำรวจหน้ากากอนามัยแบบชนิดใช้ครั้งเดียว จำนวน 60 ตัวอย่าง ที่วางจำหน่ายช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พ.ศ. 2564 และพบว่ามีหน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียวกว่าร้อยละ 68 ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน สอบ. จึงได้เสนอมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียว ต่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยให้ สมอ. กำหนดให้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวเป็นมาตรฐานบังคับ จากเดิมที่เคยเป็นมาตรฐานแบบสมัครใจ เนื่องจากปัจจุบันหน้ากากอนามัย เป็นสินค้าจำเป็นภายใต้การดำรงชีวิตวิถีใหม่นั้น
เมื่อ 17 ก.พ.65 สอบ. ได้รับหนังสือตอบกลับจาก สมอ. ว่า ปัจจุบัน มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว มาตรฐานเลขที่ มอก. 2424 – 2562 อยู่ในกระบวนการเสนอให้ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมเสนอร่างกฎกระทรวงให้เป็นมาตรฐานบังคับใช้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ การสำรวจหน้ากากหน้ากากอนามัยแบบชนิดใช้ครั้งเดียวดังกล่าว สอบ. ได้ร่วมกับเครือข่ายนักวิชากรเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยได้จัดเก็บตัวอย่างเพื่อดำเนินการทดสอบคุณภาพในการป้องกันโรคของหน้ากากอนามัยที่วางจำหน่ายช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564 และจัดเก็บข้อมูลการแสดงฉลากต่อผู้บริโภคจำนวน 60 ตัวอย่าง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการกรองอนุภาคขนาดเล็ก (Filter Efficiency) และความสามารถในการซึมผ่านของอากาศ (Air Permeability) โดยอ้างอิงจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมหน้ากากอนามัย มาตรฐาน มอก. 2424 – 2562 และมาตรฐาน มอก. 2480 – 2562 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 6 พฤศจิกายน 2564 จากการทดสอบ สอบ. พบว่า หน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียวกว่าร้อยละ 68 ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน
ผู้บริโภคสามารถอ่านข้อมูลและรายละเอียดผลสำรวจหน้ากากอนามัยได้ ที่ลิงก์นี้เลย https://www.tcc.or.th/surgical-mask-test/
ที่มา: สภาองค์กรของผู้บริโภค