โดนโกงซื้อของต้องฟ้องอาญารวดเร็วทันใจ!

ตามหัวข้อเลยจ้า>>> บอกเลยว่า…ได้ทั้งความถูกต้อง ได้ทั้งความรวดเร็วทันใจ ที่เอาเรื่องนี้มาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังก็เพราะว่าเรามีตัวอย่างจากผู้เสียหายที่ซื้อของออนไลน์ โอนจ่ายเงินไปแล้วด้วย กลับโดนโกงซะงั้น ! เจ้าตัวไม่ปล่อยเลยตามเลย ขืนปล่อยให้คนชั่วลอยนวลก็เท่ากับปล่อยให้ทำคนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อไม่รู้จบ เมื่อคิดได้แบบนั้น ก็เลยมาปรึกษาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เจ้าตัวบอกว่า…ด้วยความที่อยากได้แว่นตามือสองทรงวินเทจ ที่มีเพจเฟซบุ๊กในกลุ่มขายของเก่าเด้งขึ้นมา ด้วยรูปทรงที่ถูกใจยิ่งนัก แถมราคาจับต้องได้แค่ 680 บาท เพราะปกติแค่กรอบแว่นวินเทจถ้าซื้อตามร้านค้าทั่วหรือเพจเจ้าอื่นราคาแพงเกินหลักพันขึ้น แล้วก็ด้วยความที่ต้องการใช้ด่วนๆ จึงตัดสินใจทักแชทแมสเซนเจอร์เพื่อติดต่อซื้อ คนขายก็ให้แอดไลน์เพื่อโอนเงินโดยสแกน QR CODE เข้าบัญชีพร้อมเพย์ วันนั้นจำได้เลย 2สิงหาคม 2568 ผ่านมา3 วันทางผู้ขายก็ส่งเลขพัสดุ ของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งมาให้เพื่อยืนยันการส่งสินค้าที่สั่งซื้อ ทีนี้พอได้เลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) ก็เลยเอาไปกรอกหาข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทขนส่งเจ้านั้น แม่เจ้า! โดนหลอกซะแล้ว เพราะเลขพัสดุที่เพจขายของเก่าส่งมาให้เป็นของปลอมน่ะสิ แต่ก็ยังใจดีสู้เสือจัดการทักแชทไปที่มิจฉาชีพรายนี้หากไม่ส่งของมาให้จะแจ้งความตำรวจให้จัดการทางกฏหมาย แต่!เมื่อได้เงินไปแล้วก็จัดการบล็อกคนซื้อ แถมลบโพสต์ไปแล้วด้วย เอาละสิ จะทำไงดี อยากได้เงินคืน ดีที่เก็บหลักฐานการแชทและการโอนเงิน รวมถึงหน้าเพจของมิจฉาชีพรายนี้เอาไว้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ ถามว่า อะไรถึงทำให้มั่นใจว่าเพจเฟซบุ๊กที่โพสต์ขายแว่นวินเทจเจ้านี้ ไว้ใจได้ เช่น มีผู้ติดตามหลักหมื่น หลักแสน หรือมีรีวิว มาการันตีว่า เจ้านี้ขายจริงไม่โกงแน่นอน

ผู้ร้องบอกว่า เพจนี้มีผู้ติดตามแค่หลักร้อยต้นๆ แต่ที่ไม่เอะใจว่าเป็นเพจมิจฉาชีพ เพราะตอนนั้นคิดแค่ว่า แว่นราคาถูก ใจมันก็เร่งอยากได้ไวๆ เลยไม่ทันได้ตรวจสอบจาก เว็บไซต์ Blacklistseller

เพื่อตรวจสอบข้อมูลของมิจฉาชีพอย่างละเอียด แต่ภายหลังที่เสียเงินไปแล้ว ก็เลยลองตรวจดูนั่นไง!เจอเลยเป็นมิจฉาชีพจริงๆ ด้วย อันนี้ก็ทำให้เราได้เตือนตัวเองและฝากเตือนไปถึงคนอื่นด้วย จะซื้อของออนไลน์ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนโอนเงิน แต่เราไม่ยอมโอนเงินให้มิจฉาชีพฟรีๆ หรอก เราก็เลยแจ้งความออนไลน์ ซึ่งก็เร็วมากตำรวจนัดหมายไปสอบปากคำตามระบบซึ่งมีการแจ้งเบอร์โทรศัพท์ของพนักงานสอบสวนในท้องที่ซึ่งเรามีทะเบียนราษฏร์อยู่ แต่เราอยากฟ้องร้องเอาผิดมิจฉาชีพรายนี้จะทำยังไงได้บ้าง

คุณกิตติศักดิ์ ธนันณัฏฐ์ ทนายความมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บอกว่า ผู้ขายรายนี้มีเจตนาฉ้อโกงชัดเจน จากการตรวจสอบรายชื่อที่รับโอนเงินเป็นชื่อเดียวแต่มีหลายบัญชีจากหลายแบงก์ ทำให้มีชื่อตามตัวได้ง่าย จึงช่วยเหลือผู้ร้องด้วยการยื่นฟ้อง “คดีอาญา” เพราะการกระทำที่มีความผิดและเป็นภัยต่อสังคมและต่อเศรษฐกิจ หากคดีอาญาผู้กระทำผิดต้องมาศาล เพราะหากดื้อแพ่งจะถูกศาลออกหมายจับ และหากศาลพิพากษาให้มีความผิด ต้องเข้าคุกและต้องชดใช้เงินให้ผู้เสียหายด้วย โดยล่าสุด 31ตุลาคม2568 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงธนบุรี

ทนายความมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บอกว่า นอกจากการฟ้องอาญายังสามารถ พ่วงฟ้องเอาผิดตาม ” พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือปลอมแปลงที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน” แต่หากยอมคืนเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าทนายความ ค่าขึ้นศาล ให้ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจแล้ว ผู้เสียหายก็อาจยอมถอนฟ้อง เพราะเป็นความผิดต่อส่วนตัว นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นฟ้องแพ่งพ่วงไปด้วยฐาน “ผิดสัญญาเรียกเงินคืน” แต่ ฟ้องแพ่ง มีช่องทางให้คนโกงดื้อไม่ยอมมาศาลไม่ได้ถูกจำคุกหรือกักขัง ถึงแม้คนโกงมาศาลแล้วถูกคำพิพากษาให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย ก็มีช่องให้คนโกง ใช้วิธี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ” เพราะ กระบวนฟ้องแพ่ง ผู้เสียหายที่ชนะคดี มีภาระต้องไปเดินเรื่องกระบวนการบังคับคดีต้องไปสืบทรัพย์ของคนโกง บางทีก็สืบไม่ได้ บางทีคนโกงก็ไม่มีทรัพย์ให้ยึด ซึ่งการฟ้องศาลก็ต้องดูเขตอำนาจศาล สถานที่เกิดเหตุ และ ภูมิลำเนาของจำเลยมีถิ่นที่อยู่ และการที่ผู้เสียหายให้ทนายความช่วยฟ้องมีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญต้องเก็บหลักฐานที่ถูกโกงมาให้ครบ แต่ถ้าผู้เสียหายแจ้งความก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยมีการเก็บหลักฐานเช่นเดียวข้างต้น

ใครที่เจอปัญหาถูกโกงเงินจากการซื้อของช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ มาปรึกษามูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ทันทีเลยนะ โดยเฉพาะการยื่นฟ้องเป็นคดีอาญา มีทนายความที่เชี่ยวชาญคดีลักษณะแบบนี้ จากเคสผู้เสียหายข้างต้นมาร้องเรียนช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา แค่เดือนเศษก็ทำเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อ31ตุลาคม2568 เบื้องต้นศาลนัดไต่สวน 17 ธันวา 68 แต่ทนายความติดคดีอื่น จึงขอเลือกเอาวันที่ 19 มกรา 69 ที่ศาลมีวันว่างให้ เห็นมั้ยละว่ารวดเร็วทันใจแบบฟาส์แทรค ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เพราะคนโกงไม่มีสิทธิ์บ่ายเบี่ยงต้องมาศาลตามนัด ขืนหากดื้อแพ่งจะถูกศาลออกหมายจับ ต้องเข้าคุกและต้องชดใช้เงินให้ผู้เสียหายด้วย

ถ้าคุณไม่คิดแค่ว่าเงินเล็กน้อยหลักร้อยหลักพัน ถ้าคุณไม่คิดแค่ว่า ถือว่าฟาดเคราะห์ ถ้าคุณไม่ปล่อยให้คนโกงลอยนวล มาปรึกษาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรามีทั้งฝ่ายกฎหมาย และ ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ ที่พร้อมช่วยเหลือ-ให้คำปรึกษาทางคดี ติดต่อ 094-3524695 ,089-7889125 ติดต่อไลน์ วันเวลาทำการ: วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00

ส่วนใครที่อยากแค่ฟ้องเป็นคดีแพ่งก็สามารถมาปรึกษามูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ด้วยเช่นกัน หรือฟ้องคดีออนไลน์ ทำผ่านระบบศาลยุติธรรมเท่านั้น ซึ่งทำได้เฉพาะคดีแพ่ง (ส่วนของคดีอาญาทำไม่ได้ เพราะต้องไปยื่นที่ศาลเท่านั้น )

ให้สิทธิ์ฟ้องคดีได้ ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ แม้สินค้าราคาเพียงหลักสิบ โดยศาลยุติธรรม เปิด “แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง” พร้อมระบบ ฟ้องคดีซื้อขายออนไลน์ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2565 โดย ‘แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง’ ไม่จำกัดวงเงินขั้นต่ำ เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมถึงการบริโภคของกลุ่มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เนื่องจากตามปกติแล้วผู้เสียหายสามารถนำคดีมายื่นฟ้องศาล เพื่อให้มีการชดใช้ได้แต่ในการยื่นฟ้องคดีแพ่งตามหลักจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลในภูมิลำเนาของผู้ขายที่จะเป็นจำเลย หรือที่มูลคดีเกิด ขณะที่การซื้อขายออนไลน์ อาจมีกรณีที่ว่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนไม่มาก หลักร้อยหลักพันบาท จึงทำให้คดีเหล่านี้มาไม่ถึงศาล เพราะมองว่าจะต้องเสียเวลา ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี อาจไม่คุ้มค่าที่จะไปยื่นฟ้องศาล รวมถึงความยุ่งยากในขั้นตอนการดำเนินคดี แต่เมื่อปัจจุบันข้อพิพาทในการซื้อสินค้าออนไลน์ในสังคมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หากปล่อยปัญหานี้ไปก็จะกระทบถึงความน่าเชื่อถือของระบบการซื้อขายออนไลน์ในประเทศ และผู้บริโภคที่ซื้อของทางออนไลน์มีโอกาสที่จะถูกหลอกโดยที่ไม่ได้รับการเยียวยา ขณะที่ผู้ขายซึ่งก่อให้เกิดปัญหาจะยังคงไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภครายอื่นได้อีก

ขั้นตอนและวิธีฟ้องศาลออนไลน์ “ด้วยตัวเอง” ต้องเข้าระบบยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประชาชน เมื่อเข้าสู่ระบบ จะมีขั้นตอนและเอกสารแนบที่กรอกให้ครบถ้วน

กระบวนการเมื่อคดีซื้อขายออนไลน์เข้าสู่ระบบศาล เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ศาลจะดำเนินการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบวันพิจารณาคดี การสืบพยาน และการไกล่เกลี่ยจะดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ ส่วนกรณีไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จจำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การผ่านระบบออนไลน์และดำเนินการต่อสู้คดีในลำดับต่อไป โดยคดีซื้อขายออนไลน์ จะสามารถยื่นฟ้องคดีได้ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้หากยื่นฟ้องทางออนไลน์หลังเวลา 16.30 น. หรือในวันเสาร์-อาทิตย์ จะให้นับวันทำการถัดไปให้ถือเป็นวันฟ้อง

ปัจจุบัน การใช้ระบบฟ้องคดีออนไลน์ มีศาล 30 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ ให้ประชาชนสามารถยื่นฟ้องคดี, ยื่นคำร้อง, และดำเนินกระบวนพิจารณาคดีบางส่วนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องเดินทางมาศาล เช่น การยื่นคำฟ้อง, การรับหมาย, การไกล่เกลี่ย, และการสืบพยานผ่านวิดีโอคอล ได้แก่

1.ศาลแพ่ง  2. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ 3.ศาลแพ่งพระโขนง  4.ศาลแพ่งมีนบุรี  5.ศาลแพ่งธนบุรี  6.ศาลแพ่งตลิ่งชัน  7.ศาลแขวงพระนครเหนือ

8.ศาลแขวงพระนครใต้  9.ศาลแขวงดอนเมือง  10.ศาลแขวงดุสิต  11.ศาลแขวงธนบุรี  12.ศาลแขวงนนทบุรี  13.ศาลจังหวัดนนทบุรี 14.ศาลแขวงสมุทรปราการ

15.ศาลจังหวัดสมุทรปราการ  16.ศาลจังหวัดธัญบุรี  17.ศาลจังหวัดชลบุรี  18. ศาลจังหวัดพัทยา  19.ศาลแขวงพัทยา  20.ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา

21.ศาลแขวงนครราชสีมา  22.ศาลจังหวัดนครราชสีมา  23. ศาลจังหวัดภูเขียว  24.ศาลจังหวัดอุบลราชธานี  25.ศาลจังหวัดเชียงใหม่  26.ศาลจังหวัดแพร่

27.ศาลจังหวัดสมุทรสาคร  28.ศาลจังหวัดเพชรบุรี  29.ศาลจังหวัดภูเก็ต และ 30.ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ปรึกษาปัญหาผู้บริโภค