3 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลกเตรียมประกาศให้ “แอสปาร์แตม” (aspartame) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลในน้ำอัดลมหลายสูตรว่าเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากน้ำอัดลมชนิดน้ำตาล 0% ยังพบแอสปาร์แตมได้ในเครื่องดื่มและสินค้าอีกหลายประเภท เช่น หมากฝรั่ง
แหล่งข่าว 2 รายนี้ ระบุว่า องค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยด้านมะเร็ง ขององค์การอนามัยโลกจะขึ้นทะเบียนแอสปาร์เแตมเป็นสารก่อมะเร็งภายในเดือน ก.ค. นี้ด้วย
ทางด้านมหาวิทยาลัยบอสตัน ของสหรัฐอเมริกา พบว่า เครื่องดื่มเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมและโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าน้ำอัดลมธรรมดา ซึ่งอาจจะร้ายแรงกว่าภาวะอ้วนเสียอีก
โดยทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันของสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาตัวอย่างคนที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป จำนวน 4,372 คน เป็นเวลานานถึง 10 ปี เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่พวกเขาบริโภค และพบว่าคนที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ตวันละ 1 กระป๋อง มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมและหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มถึง 2.9 เท่าเลยทีเดียว ส่วนผสมในน้ำอัดลมไดเอ็ตที่เรียกว่า “แอสปาร์แตม” ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นส่งผลทำให้หลอดเลือดตีบได้ ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคสมองเสื่อม และหลอดเลือดสมองนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม็ทธิส เพส หนึ่งในทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยการแพทย์บอสตัน กล่าวว่า แม้ยังไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล กับโรคหลอดเลือดสมองและสมองเสื่อม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องดื่มเหล่านี้จะดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำอัดลมไดเอ็ต
