ผลสำรวจนิด้าโพล เผยความเห็นกลุ่มตัวอย่าง มองการตัดไฟ-ตัดเน็ต-ระงับส่งน้ำมัน ช่วยจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาได้ระดับหนึ่ง เกือบ 7 ใน 10 เชื่อเจ้าหน้าที่รัฐของไทยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนด้วย ขณะที่ ผบช.สอท. เผยชาวต่างชาติ 260 คนที่ช่วยเหลือ มีถูกหลอกมาทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์แค่ 1 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “War on Scam Gang” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ที่มีฐานในเมียนมา…
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการของรัฐบาลในการตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและระงับการส่งออกน้ำมัน เพื่อจัดการปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา พบว่า ร้อยละ 70.54 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 21.07 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 5.34 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 3.05 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย…
ด้านมาตรการของรัฐบาลในการตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งออกน้ำมันกับการช่วยแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา พบว่า
ร้อยละ 60.92 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
ร้อยละ 17.71 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้มาก
ร้อยละ 15.95 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้น้อยมาก
ร้อยละ 5.42 ระบุว่า ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรเลย
สำหรับการมีส่วนเกี่ยวข้องหรือการสนับสนุนแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมาจากเจ้าหน้าที่รัฐของไทยบางคนพบว่า
ร้อยละ 69.85 ระบุว่า มีแน่นอน
ร้อยละ 26.87 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่มี
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับผู้ที่ทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมาถูกหลอกหรือสมัครใจมากกว่ากัน พบว่าร้อยละ 49.77 ระบุว่า น่าจะมีจำนวนพอ ๆ กันทั้งคนที่ถูกหลอกและเต็มใจไปทำงาน
ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ส่วนใหญ่ไปทำงานด้วยความเต็มใจ
ร้อยละ 20.38 ระบุว่า ส่วนใหญ่ถูกหลอกไปทำงาน
ร้อยละ 4.05 ระบุว่า ไม่แน่ใจ…ต่างชาติ 260 คน ถูกหลอกแค่ 1 คน
ขณะที่ ข่าวสด รายงานเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ระบุว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่การคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์จากประเทศเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ว่า หากพูดคำว่าทางผ่าน จะเหมือนเราปล่อยปละละเลย เหมือนเรายินยอมให้นำคนไปทำงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ยกตัวอย่างล่าสุดชาวต่างชาติ 260 คนที่ได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับมายังประเทศไทย เราส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ไปช่วยซักถามคัดกรอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยื่อจากทวีปแอฟริกา โดยพบว่าคนที่ถูกหลอกไปเพียง 1 คน ส่วนที่เหลือสมัครใจไป
ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น มีทางคมนาคมที่ดีที่สุด มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ดี บนป่าเขายังสื่อสารได้เลย จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่อาชญากรรมออนไลน์ชอบ จึงทำให้มีที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งเป็นพื้นฐานถาวรอย่างสบาย แทบจะเป็นรัฐอิสระ และต้องยอมรับว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่รอบประเทศเรา
จึงเกิดการตั้งคำถามว่า ถ้าไม่เดินทางมาประเทศไทย แล้วจะเดินทางต่ออย่างไร แล้วจะให้ไปประเทศไหน และคำว่าทางผ่านที่หมายถึงคือการลักลอบ หลอกเจ้าหน้าที่ คนที่ถูกหลอกไปเราก็พยามช่วยเหลืออยู่แล้ว ส่วนที่เต็มใจไปเราต้องพยายามป้องกัน ซึ่งเหยื่อก็บอกว่าเป็นนักท่องเที่ยว เมื่อเข้าไปทำงานแล้วอยากกลับ ก็ยังไม่สามารถกลับได้ เพราะต้องทำงานให้เสร็จก่อน
เมื่อถามว่าส่วนจะมีการคัดกรองแยกเหยื่อกับคนที่สมัครใจ แล้วถูกทำร้ายจะเข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ถ้ามีการบังคับต้องตรวจสอบ ซึ่งในส่วนนี้เป็นในส่วนของคณะทำงานร่วมกัน โดยจะมีทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพหลักไปร่วมตรวจสอบ ก็ยืนยันว่ามีเหยื่อเพียง 1 คน
เมื่อถามว่าเหยื่อบางคนที่สมัครใจมาเพราะถูกเสนอมาทำงานยังประเทศไทย พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่ามีแค่ 1 คน ส่วนที่เหลือรู้แล้วว่าต้องข้ามไปทำงานที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกมาเปิดเผยว่ามีนายทุนจีนเช่าที่ดิน ส.ป.ก. ในการตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า กำลังให้ตรวจสอบอยู่ ในไทยจะเห็นว่าไม่เคยมีข่าวแก๊งคอลเซ็นตอร์ หรือกระทำการผิดกฎหมายออนไลน์ จะตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทยได้ ไม่มีทาง พร้อมยอมรับว่า อาจมีลักลอบบ้าง เพราะเราก็จับกุมได้
อย่างล่าสุดมีการจับกุมแก๊งบอสชาวจีน ที่จ้างคนไทยเป็นลูกน้อง ไปเปิดศูนย์ที่จังหวัดภูเก็ต โดยก่อนจับกุมได้มีการย้ายจุดหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าไม่มี การตั้งถิ่นฐานะถาวรแน่นอน และเราจะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง และเรื่องนี้เราจะดูเรื่องอาชญากรรมออนไลน์ ส่วนหากเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดก็จะมีการประสานกันในทางปฏิบัติอีกครั้ง…