นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยในรายการ NBT รวมใจ สู้ภัยโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 ว่า ที่ผ่านมา สปสช. ได้สื่อสารมาโดยตลอดว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 สามารถรับการตรวจหาเชื้อรวมถึงการรักษาต่างๆ ได้ฟรี จึงขอความร่วมมือโรงพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนไม่เรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย แต่ให้มาเก็บจาก สปสช.
ทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวทางโซเชียลมีเดียล่าสุด ว่าโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย 5 แสนบาท หากไม่จ่ายเงินจะไม่ให้นำศพออกจากโรงพยาบาล จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าสาเหตุเกิดจากโรงพยาบาลเข้าใจผิดในเรื่องกติกาการเบิกจ่าย โดยผู้เสียชีวิตได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วเตียงเต็ม จึงมารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น แต่เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต โรงพยาบาลกลัวว่าจะเรียกเก็บเงินไม่ได้ และไม่ได้สอบถามมายัง สปสช. จึงเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลเข้าใจกติกาและได้จ่ายเงินคืนให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตหมดแล้ว
“ยังมีอีกหลายกรณีที่โรงพยาบาลเข้าใจผิดเกี่ยวกับกติกาการเบิกจ่ายเงิน ที่เจอมากที่สุดคือเรียกเก็บเงินค่าตรวจจากกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเสี่ยงหรือไม่ ทั้งๆ ที่กติกาเปลี่ยนไปแล้วว่าถ้าแพทย์เป็นผู้สั่งตรวจ ให้โรงพยาบาลสามารถเรียกเก็บเงินมาที่ สปสช.ได้เลย ประชาชนไม่ต้องจ่าย หรือกรณีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าพยาบาลพิเศษ ค่า Hospitel ที่เป็นโรงแรมหลายดาว” นพ.จเด็จ กล่าว
พ.จเด็จ กล่าวว่า ราคาค่าบริการทุกอย่างนั้นเป็นการตกลงร่วมกันระหว่างสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ สปสช. พร้อมทั้งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งรายการต่างๆ ที่มีในบัญชีก็เป็นรายการที่โรงพยาบาลเอกชนเสนอมา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะเก็บเงินจากผู้ป่วยและต้องให้คืนเงินไป
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งเมื่อโรงพยาบาลเรียกเก็บในรายการที่ไม่มีในบัญชีที่ สปสช.จ่ายเงินให้ จึงไปเก็บเอาจากผู้ป่วย กรณีนี้ขอให้ทำเรื่องมาที่อธิบดี สบส. เพื่อขยายรายการค่าใช้จ่าย ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมามีการขยายรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปแล้ว 3 ครั้ง จาก 3,000 รายการ เพิ่มเป็น 4,800 รายการ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเก็บจากประชาชน เพราะเมื่อขยายรายการค่าใช้จ่ายแล้ว สปสช.จะจ่ายคืนย้อนหลังให้
“บางกรณีมีการการเรียกเก็บเงินมัดจำไว้ก่อน สปสช.ก็ปรับรอบการจ่ายให้เร็วขึ้น ให้ใช้เอกสารส่งเบิกง่ายขึ้น และเปิดระบบสื่อสารโดยตรงกับโรงพยาบาลเอกชนเพื่อให้สอบถามข้อสงสัยต่างๆ ดังนั้นไม่มีเหตุให้เรียกเก็บมัดจำไว้ก่อน หรือแจ้งค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วยสับสน ซึ่งขณะนี้ทางอธิบดี สบส. มีหนังสือเวียนไปยังโรงพยาบาลเอกชนแล้วว่า ให้งดการเรียกเก็บมัดจำ และงดแจ้งค่าใช้จ่ายแก่ผู้ป่วย เพราะจะสร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้ป่วย” นพ.จเด็จ กล่าว