วันนี้ (30 ม.ค. 66) เวลา 09:00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายสลัม 4 ภาค ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารในกระทรวงฯ เพื่อคัดค้านคำสั่งย้าย นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ที่ลงนามเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 โดยมี นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียร์รัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ต่อมา ตัวแทนจากสลัม 4 ภาค อ่านแถลงการณ์โดยระบุถึงความผิดปกติ และไม่เป็นธรรมต่อคำสั่งย้ายดังกล่าว รวมทั้งยังกล่าวชื่นชมการทำงานของ นพ.สุภัทร ในการทำงานช่วยเหลือชาวบ้านในฐานะที่เป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท และขอให้กระทรวงสาธารณสุขยกเลิกคำสั่งย้ายดังกล่าวโดยทันที โดยมีเนื้อหาระบุว่า
“พวกเราชาวสลัม อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ทำงานเลี้ยงชีพเป็นฟันเฟืองในระบบเศรษฐกิจ การเติบโตของ สังคมล้วนมีฐานรากมาจากคนตัวเล็กตัวน้อยที่เป็นแรงงานรับจ้างเช่นพวกเรา ที่ผ่านมาพวกเรามักถูกหลงลืม ถูกทิ้ง ไว้ข้างหลังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มั่นคง การเข้าถึงสิทธิสวัสดิการด้านต่างๆ รวมไปถึงสิทธิด้าน สุขภาพ และการรักษาพยาบาล การมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้ช่วยลดภาระความหนักอึ้งของพวกเราไปได้ มาก ทำให้พวกเราไม่ต้องกังวลเมื่อเราเจ็บป่วย พวกเราเครือข่ายสลัม 4 ภาค เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเคลื่อนไหว ด้านสุขภาพ ที่มีผู้คน และองค์กรที่คอยสนับสนุน คอยตรวจสอบ เพื่อให้สิทธิของพวกเราไม่ถูกทำให้หายไป นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ คือคนหนึ่งที่เข้าใจปัญหา และเป็นปากเสียงให้กับคนเล็กคนน้อยแบบพวกเราเสมอมา
วันนี้มีคำสั่งย้ายด่วนคุณหมอสุภัทร พวกเราติดตามข้อมูลข่าวสาร และพิจารณาพบว่ามีความผิดปกติใน กระบวนการโยกย้ายครั้งนี้ ทั้งการย้ายผู้ตรวจ คนที่ไม่ยอมเซ็นย้ายหมอสุภัทรไม่มีระเบียบรองรับ จนนำไปสู่การ แก้ไขกฎกระทรวงให้ผู้ตรวจมีสิทธิเซ็นย้าย การดำเนินการนี้ กระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่รัฐมนตรี จนถึงผู้บริหาร กระทรวงฯ ต้องออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของการย้ายกระทันหันให้ประชาชนรับทราบ
หมอสุภัทร คือคนแรกๆ ที่ออกตัวพาทีมหมอชนบทมาบุกกรุงเทพ ครั้งที่โรคโควิด-19 ระบาดหนัก เตียงล้น ผู้ป่วยเพิ่ม และเริ่มมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก การบุกกรุงตรวจเชิงรุกอย่างน้อย 3 รอบของหมอชนบท เกิดขึ้นเพราะ หมอสุภัทร ผู้เป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้เอ่ยปากร่วมมือกับประชาชน และคนสลัมในกทม. ที่กำลังลำบาก อย่างมากจากสถานการณ์โควิต เมื่อคุณหมอคิดว่าต้องมาช่วยก็ไม่รีรอที่จะมาทันที การทำงานหามรุ่งหามค่ำในช่วง นั้นหลายคนที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครย่อมรู้ดี การสู้เพื่อให้กระทรวงฯ ยอมจ่ายยาฟาวิพราเวียร์ขณะนั้น ถือเป็น วีรกรรมที่ชาวสลัมย่อมไม่มีวันลืม วันนี้หมอสุภัทรถูกสั่งย้ายโดยไม่มีสาเหตุ แม้ผู้บริหารระดับสูงจะออกมาปฏิเสธ และพูดว่าคนเก่งอยู่ที่ไหนก็ได้นั้น เป็นการพูดเพื่อปัดผิดให้พ้นตัว และขาดความรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารอย่าง สิ้นเชิง
พวกเราเครือข่ายสลัมสี่ภาค ขอประณามผู้สั่งการ และผู้ลงมือกระทำต่อการโยกย้ายหมอสุภัทร การกระทำ ครั้งนี้ได้ทำลายความน่าเชื่อถือในความโปร่งใส และธรรมาภิบาลของกระทรวงสาธารณสุขลงไปอย่างสิ้นเชิง พวกเราขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ และขอชื่นชมคุณหมอผู้ที่ออกมาปกป้องระบบ สาธารณสุข ปกป้องสิทธิสุขภาพของประชาชนมาตลอด โดยไม่เกรงกลัวอำนาจ และไม่หวั่นไหวต่อระบบอุปถัมภ์ใน กระทรวงฯ เครือข่ายสลัมสี่ภาคขอเรียกร้องให้นายอนุทิน และปลัดกระทรวงสาธารสุข ยกเลิกคำสั่งย้ายหมอสุภัทร โดยทันที”
ด้าน น.ส.กรรณิการ์ ปู่จินะ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค เปิดเผยว่า วันนี้มาติดตามทวงถามการสั่งย้ายนพ.สุภัทรที่ไม่ยุติธรรมว่าเหตุใดถึงมีคำสั่งย้าย โดยวันนี้ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติม มีเพียงตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมารับหนังสือเพียงเท่านั้น ส่วนตัวมองว่าคำสั่งย้ายนี้ อาจมาจากเรื่องของการเมือง เนื่องจาก นพ.สุภัทร มีการวิพากษ์วิจารณ์ในการทำงานของ สธ.
อีกทั้ง นพ.สุภัทร เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการฯ ไม่สามารถมีคำสั่งย้ายไปที่ไหนได้ แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ซึ่งตนรู้สึกว่า เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงคำชี้แจงในการย้ายนั้น น.ส.กรรณิการ์ เผยว่า ความเป็นจริงไม่ต้องมีคำสั่งย้ายแบบนี้ก็ได้ ถ้าอยากให้การดูแลที่ทั่วถึง กระทรวงสาธารณสุขก็สามารถเริ่มทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องย้าย เพราะคนๆ นึงไปอีกที่ โดยที่ใครคนนึงอยู่ก็ลงไปทำงานได้
ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ เครือข่ายสลัม 4 ภาคจะยังคงติดตามความคืบหน้าต่อไป หากไม่ได้รับคำตอบ พวกตนก็จะกลับมารวมตัวที่หน้า สธ. อีก และอาจจะมาเยอะกว่าเดิม
ขณะที่ นพ. ปราโมทย์ กล่าวภายหลังจากรับหนังสือ ระบุว่า ตนได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้มาติดตามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และเป็นห่วงต่อความรู้สึกของประชาชน เลยให้ปฎิบัติหน้าที่แทน ซึ่งตนคงไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงฯ และจะต้องไปติดตามว่าคำสั่งย้ายนี้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงหรือไม่
