กรมควบคุมโรค แนะวัดความดันสม่ำเสมอ เน้นวัดเป็น แปลผลได้ เผยขั้นตอนวิธีวัดที่ถูกต้อง หากเกิน 140/90 ควรพบแพทย์ ชี้ตัวเลขยิ่งสูงยิ่งเสี่ยงภางะแทรกซ้อน ก่ออัมพฤกษ์อัมพาต แม้ไม่มีอาการ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันที่ 17 พ ค. ของทุกปี เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension Day) โดยปี 2566 สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลก กำหนดประเด็นรณรงค์ “ความดันสูงเกินไป คุมให้ดี ยืดชีวีให้ยืนยาว” เน้นให้ประชาชนสามารถวัดความดันโลหิตได้อย่างถูกต้อง ทราบค่าความดันของตนเอง แปลผลได้ เพราะโรคความดันโลหิตสูงแม้จะไม่มีอาการ แต่อาจทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือด โรคไตเรื้อรัง และเสียชีวิตได้ จึงควรควบคุมความดันโลหิตให้น้อยกว่า 120/80 มิลลิเมตรปรอท ถ้าเกิน 130/80 มิลลิเมตรปรอท คือ เริ่มสูงต้องเริ่มปรับพฤติกรรม ถ้าสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ถือว่าป่วยเป็นความดันโลหิตสูงต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์และเข้ารับการรักษา ถ้าเกิน 160/100 มิลลิเมตรปรอท คือ สูงมากซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และถ้าเกิน 180/110 มิลลิเมตรปรอท สูงถึงขีดอันตรายต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากถึง 14 ล้านคน และมากกว่า 7 ล้านคนที่ป่วยแต่ยังไม่เข้ารับการรักษา โรคความดันโลหิตสูงส่วนมากมักไม่แสดงอาการ หากผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลานานและไม่ได้รับการรักษา ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มมากขึ้น และอาจมีอาการต่างๆ ได้แก่ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น ตาพร่ามัว เป็นลมหมดสติ และเกิดโรคแทรกซ้อนตามมา ได้แก่ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
นพ.ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วิธีป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ 1. งดทานอาหารรสเค็มหรือมีโซเดียมสูง โดยคนทั่วไปไม่ควรทานโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าป่วยความดันโลหิตสูง ไม่ควรเกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน 2.ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ 3.ลดความอ้วน ให้ค่า BMI ไม่เกิน 23 กิโลกรัมต่อตารางเมตร แต่ถ้าคนที่ความดันสูงมากหรือปรับพฤติกรรมแล้ว แต่ความดันยังเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท ต้องกินยาร่วมด้วย ผู้ป่วยจำเป็นต้องพบแพทย์และกินยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่มีอาการ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมากและทำให้เสียชีวิตได้
นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผอ.กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันที่ 17 พ.ค. 2566 กรมควบคุมโรคร่วมกับสมาคมความดันโลหิตสูงโลก จัดกิจกรรมการประกวดคลิปวิดีโอ ความดันสูงเกินไป คุมให้ดี ยืดชีวีให้ยืนยาว พร้อมจัดงานเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยผู้ป่วยและแพทย์ วิธีวัดความดันโลหิตที่ถูกต้องคือวัดความดันโลหิตในช่วงเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน หรือหลังปัสสาวะแล้ว วัดความดันจำนวน 2 ครั้ง ให้ห่างกันครั้งละ 1 นาที วัดช่วงเวลาก่อนเข้านอน 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 นาที นั่งเก้าอี้ให้หลังพิงพนักเพื่อไม่ให้หลังเกร็ง เท้าทั้ง 2 ข้าง วางราบกับพื้นให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย วัดความดันโลหิตในแขนข้างที่ไม่ถนัด หรือข้างที่มีความดันโลหิตสูงกว่า โดยวางแขนให้อยู่ในระดับเดียวกันกับหัวใจ ขณะวัดความดันโลหิตไม่กำมือ ไม่พูดคุยหรือขยับตัว ทั้งนี้ ควรวัดความดันหลังจากนั่งพักอย่างน้อย 30 นาที และ 1 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ หรือ ออกกำลังกาย