สปสช.ห่วงใย ปชช. 7 กลุ่มเสี่ยง เชิญชวนฉีดวัคซีน ‘ไข้หวัดใหญ่’ ควบคู่วัคซีนโควิด-ลดป่วยรุนแรง

ปสช. ห่วงใยประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เชิญชวน “ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่” ควบคู่วัคซีนโควิด-19 ลดภาวะความรุนแรงของโรคและอัตราเสียชีวิต


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนัก โดยเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงต่อภาวะโรคที่รุนแรง และยิ่งในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากทั้งสองโรคมีอาการคล้ายคลึงกัน ส่งผลต่อการตรวจและรักษาได้

ทั้งนี้ หากผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่จะทำให้โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงอัตราการเสียชีวิตย่อมสูงขึ้นด้วย ขณะที่ผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ หากติดเชื้อโควิด-19 จะช่วยลดระยะเวลาการรักษาและนอนในโรงพยาบาลได้

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมดำเนินการเพื่อให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เริ่มให้เข้ารับบริการฉีดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมรณรงค์ให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ตระหนักและเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ส่วนการปฏิบัติในการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด-19 นั้น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถรับบริการฉีดวัคซีนชนิดใดก่อนก็ได้ โดยเว้นระยะห่างระหว่างวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด19 อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และสามารถให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ระหว่างวัคซีนโควิด เข็มที่ 1 และ 2 ได้

“จากสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ เรามีความห่วงใยต่อประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง นอกจากวัคซีนโควิด-19 แล้ว ท่านต้องรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะรุนแรงของโรคให้กับตัวท่านเอง ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ก็ยังเป็นปัญหาสุขภาพ ซึ่งในปี 2564 ได้จัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่จำนวน 6.4 ล้านโดส เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับบริการได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ที่ฉีดวัคซีนยังเป็นการลดภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ปรึกษาปัญหาผู้บริโภค